ระหว่างทางคิดว่ายังไงก็ชิล ๆ แค่ 6.2 กิโลเมตรเอง คณะผมติดต่อลูกหาบเป็นกลุ่มแรก ได้เบอร์หนึ่งมา ไอ้ตอนชั่งน้ำหนักยังคุยกันว่าไม่น่าจะเท่าไหร่หรอก คน 5 คน เอาน้ำไป 30 ลิตร แล้วก็อาหารอื่น ๆ เครื่องนอนอีกเล็กน้อย แต่พอเจ้าหน้าที่เขาบวกเลขรวมเสร็จ...ถึงกับผงะ 104 กิโลกรัม ในใจคิด...นี่เราเอาอะไรไปนักหนา โดนค่าลูกหาบไปสามพันกว่าบาท ถึงกับเข่าอ่อน
หลังจากจ่ายเงินเสร็จเราก็ออกเดินทางกันตอนสักเก้าโมง ช่วงแรกเดินเลียบลำธาร บรรยากาศชิลมาก รู้สึกว่าถ้าเดินแบบนี้เรื่อย ๆ คงสดชื่น สักพักลำธารเริ่มหาย ไอ้ช่วงที่ชิล ๆ เนี่ยไม่มีใครจดจำอะไรหรอกว่าเดินมาถึงตรงไหน เดินผ่านอะไรมาบ้าง ความทรงจำเริ่มต้นขึ้นตอนช่วงแรกนี่แหละ มันชื่อว่า เนินส่งญาติ ข้ามเนินนี่ได้ขาแทบหมดแรง เหนื่อยมาก แต่พักเหนื่อยไม่เท่าไหร่เราก็ไปกันต่อ ผ่านเนินอะไรไปผมก็จำไม่ได้แล้ว แต่รู้ว่าป้ายบอกกิโลเมตรมั่วมาก ทำเอาท้อใจ ช่วงแรกเดินแป๊บเดียวสามกิโลเมตร แต่ไอ้สามกิโลเมตรหลังทำไมนานผิดปกติ ยิ่งช่วงสุดท้ายที่เรียกว่า เนินมรณะ เหนื่อยสุด ๆ จริง ๆ มันควรต้องเปลี่ยนชื่อเป็นเนินส่งวิญญาณถึงจะถูก กว่าจะขึ้นเสร็จวิญญาณแทบหายจากร่าง 55
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น